"อยากให้ลูกนิ่งค่ะหมอ"
หมอเจอคำถามแบบนี้เกิน 70% ขออธิบายง่ายๆสั้นๆว่า
1- เด็กปกติเกือบทุกคน ต้องผ่านช่วงซนมาก่อน แล้วสมองจึงพัฒนาการเข้าสังคม การรู้จักการลงโทษทางสังคม เมื่อซนหรือทำพฤกติกรรมไม่เหมาะสม เค้าถึงจะนิ่งได้
2- แต่ก็มีเด็กหลายๆคนที่ซนจริงจังและมีปัญหากับการใช้ชีวิต การเข้าสังคมมากๆ อันนี้ก็สมควรกินยา แต่ต้องประเมินตามหลักการแพทย์ก่อน ***
3- การกระตุ้น TMS มีสองแบบ แบบกระตุ้นเพิ่มและแบบยับยั้ง พูดง่ายๆ คือ ทำให้คึกกับทำให้ซึม
วิธีแบบกระตุ้นเพิ่ม เหมาะกับเด็กกลุ่มออทิสติกที่ช้าๆ เป็นการทำให้สมองประสานงาน ทำงานดีขึ้น ฉลาดขึ้นในทุกๆด้าน รวมถึงด้านสังคมและการยับยั้งตัวเอง ซึ่งจะเห็นได้ในหลายๆคนว่านั่งนิ่งได้มากขึ้น รอได้นานขึ้นมาก
วิธีแบบยับยั้ง ทำให้ซึมลง นิ่งขึ้น เฉยๆ ไม่สนใจอะไรได้ ไม่ควรใช้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ หมอไม่ชอบ ในงานวิจัยส่วนนึงก็ใช้วิธีนี้
4- แม่คนนึงเล่าให้ฟังว่า ลูกเค้าตอนเด็กๆซนมาก ครูและที่บ้านทนไม่ไหว จนแม่พาไปหาหมอจิตเวชเด็ก แม่คิดว่าน้องจำเป็นต้องกินยาให้นิ่งแล้ว
หมอตรวจประเมินแล้วบอกแม่ว่า "หมอให้ยาได้นะ แต่แม่อยากให้น้องนั่งน้ำลายยืดนิ่งๆ หรือจะให้ซนแต่ฉลาดแบบนี้ ?"
แม่อึ้งไปแล้วก็พาลูกกกลับ ผ่านไป 2 ปี ลูกของแม่ก็นิ่งได้ปกติดี
5- ในสมองของเด็กออทิสติกหรือเด็กที่มีปัญหาในสมอง การมองเห็นและการได้ยินเค้าผิดอาจเพี้ยนไปจากปกติ จึงทำให้เค้าไม่นิ่ง กรี๊ด ไม่สามารถโฟกัสได้ เมื่อเรามาทำ TMS สมองเค้ามองเห็นดีขึ้น ได้ยินดีขึ้น สัมผัสดีขึ้น เค้าจึงได้รู้ว่าโลกที่แท้จริงเป็นอย่างไร ดังนั้นช่วงแรกๆที่กระตุ้นไป น้องจะตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับโลกใบใหม่ของเค้า
6- จุดมุ่งหมายของทำให้นิ่งคือ "เพื่อให้ฝึกได้ เรียนได้"
ดังนั้นจากประสบการณ์ส่วนตัว หมอไม่ชอบให้เด็กนิ่งแล้วซึม แต่หมอชอบเด็กซนแต่ฉลาดมากกว่า เพราะสมองเค้าได้พัฒนาเต็มที่อย่างที่เด็กปกติคนนึงควรจะเป็น